top of page

ใครอยากเรียนเกาหลี ~ ฉันหน่ะสิ ฉันหน่ะสิ

รีวิวชีวิตการเรียนภาษาเกาหลีที่ผ่านมาของดิช้อนเอง 

           เราเชื่อว่าหลายๆคนที่เข้ามาอ่านก็คงอยากจะหารีวิวสถาบันสอนภาษาเกาหลีกันอยู่ แต่ใช่เลยค่ะ พอค้นเข้าไปดูใน internet ก็มีข้อมูลรีวิวไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ โดยเฉพาะสถาบันที่เราเรียนอยู่อย่าง Sejong Korean School ที่มีข้อมูลรีวิวน้อย วันนี้เราก็จะมาพูดในมุมมองของนักเรียนที่เรียนที่สถาบันนี้มาประมาณ 2 ปีนะคะ แต่ขอย้ำว่า สิ่งที่เขียนไปคือสิ่งที่ออกมาจากความรู้สึกของเรานะคะ หลายๆคนที่เรียนอยู่อาจจะมีมุมมองที่ต่างออกไป ยังไงก็ลองเอาไปพิจารณากันนะคะ

           

          

COURSE & PRICE

          ที่ SEJONG KOREAN SCHOOL มีเปิดสอนตั้งแต่แรกสุดก็คือบรรดาพยัญชนะต่างๆเลยค่ะ คนที่ไม่มีพื้นฐานสามารถมาเริ่มต้นนับหนึ่งได้เลยไม่ต้องกลัวค่ะ โดยจะมีการแบ่งระดับคร่าวๆเป็น Beginner / Pre-Inter media / Inter media / Advance (และเหมือนจะมีสูงกว่านี้ด้วยค่ะ แต่เราไม่แน่ใจชื่อของระดับ) โดยในแต่ละระดับจะมีทั้งหมด 6 ขั้นย่อยค่ะ เช่น ในระดับ Beginner ก็จะมี Begin 1-6 เท่ากับว่าเราจะต้องลง 6 คอร์สแล้วถึงจะสามารถขึ้นไประดับต่อไปได้ค่ะ โดยคอร์สนึงจะมีทั้งหมด 24 ชั่วโมงค่ะ (ปกติจะเรียนครั้งละ 3 ชั่วโมงค่ะ แต่ถ้าเรียนอาทิตย์ละหลายๆวันก็จะเป็นครั้งละ 2 ชั่วโมง)

          สำหรับราคาของคอร์ส ก็จะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4,500 - 6,000 ต่อคอร์สค่ะ แต่อยากจะแนะนำให้ไปเช็คที่ Facebook ของทางสถาบันเองเลยค่ะ เพราะว่าราคาจะผันตามปัจจัยทางด้านวัน เวลารวมถึงระดับขั้นด้วยค่ะ (พอขึ้นขั้นที่สูงขึ้นราคาก็จะเพิ่มขึ้นนิดๆหน่อยๆ) และที่สำคัญทางสถาบันมีโปรโมชั่นเยอะมากๆเลยค่ะ เช่น ถ้าซื้อเป็นแพค 3 คอร์ส (Begin1-3) ก็จะเป็นราคาพิเศษ เป็นต้น โปรโมชั่นของแต่ละช่วงก็ไม่เหมือนกัน แนะนำให้ไปเช็คง่ายที่สุดค่ะ (คลิ๊กตรงนี้เพื่อไปดูข้อมูลได้เลยค่ะ)

           ทั้งนี้สามารถจัดคลาสมาเรียนเองได้นะคะ ขั้นต่ำในการเปิดคลาสใหม่คือ 4 คนค่ะ (แต่ราคาอาจจะไม่ใช่ราคาโปรโมชั่นนะคะ) ถ้าคนน้อยกว่านั้นก็สามารถเป็นได้ค่ะ แต่ก็อาจจะต้องเสียค่าเรียนเพิ่ม นอกจากนี้สำหรับใครที่อยากจะเรียนแบบเข้มๆ ตัวต่อตัว ที่นี่ก็มีการเรียนแบบ Private ด้วยนะคะ ราคาอยู่ที่ประมาณหมื่นกลางๆค่ะ (จำไม่ได้แล้วเพราะว่าที่เคยเรียนก็นานแล้ว แงงง)

 

BOOK

        มาถึงเรื่องที่เราคิดว่าหลายๆคนน่าจะอยากรู้กันคือ เนื้อหาในการสอนของที่นี้เน้นอะไรบ้าง ที่สถาบันนี้จะใช้ตำราของ Sogang University ค่ะ ในแต่ละบทของหนังสือจะประกอบไปด้วยส่วน Grammar , Conversation , Reading และ Listening ส่วนมากในพาร์ทอ่านก็จะมีการสอดแทรกวัฒนธรรมเกาหลีเข้ามาค่ะ เช่น มารยาทต่างๆ นิทานพื้นบ้าน ส่วนพาร์ทฟังก็จะเป็นเรื่องราวในชีวิตประจำวันทั่วไป แต่ในส่วนของไวยกรณ์ก็จะมีปริมาณอยู่ที่ประมาณ 2-3 ตัวต่อหนึ่งบทซึ่งไม่เยอะมากเท่ากับตำราของมหาวิทยาลัยอีฮวา เพราะตัวสถาบันภาษาของมหาวิทยาลัยซอคังก็ขึ้นชื่อในเรื่องของ Speaking ดังนั้นพาร์ทไวยกรณ์ต่อบทจะไม่เยอะมากและจะเน้นให้เราฝึกได้พูดมากกว่าผ่านกิจกรรมในพาร์ทต่างๆค่ะ ซึ่ง process การสอนของอาจารย์ที่นี่จะให้เราได้พูดแบบว่าเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆ 

        ขอสรุปสั้นๆเลยว่า ตำราของ Sogang University จะเป็นตำราที่ไม่ได้อัดแน่นเนื้อหา แต่อัดแน่นไปด้วย activity สำหรับเรานะ ถ้าใครอยากจะได้แกรมม่าปึกๆแน่นๆในเวลาสั้นๆ ตำราของซอคังอาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ แต่ถ้าใครอยากจะฝึกพูดเยอะๆ ฟังเยอะๆ ที่นี่ก็สามารถตอบโจทย์ได้ค่ะ

TEACHER

        สำหรับที่เซจง อาจารย์ส่วนมากเป็นคนเกาหลีเลยค่ะ (ช่วงนี้อาจารย์ที่เป็นคนไทยอยู่ 1 คนค่ะ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นอาจารย์คนไทยมากกว่า 1 คนเลย) โดยอาจารย์คนไทยจะสอนเราในช่วงแรกๆที่เรายังไม่คุ้นชินกับภาษาเท่าไหร่ และไม่ต้องกังวลนะคะว่าอาจารย์เกาหลีจะสื่อสารกับเราได้ไหม อาจารย์ทุกท่านสื่อสารด้วยภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษภาษาใดภาษาหนึ่งได้แน่นอนค่ะ 

 

        อาจารย์ที่เซจงในมุมมองของเราคือทุกท่านน่ารักมาก อาจารย์เป็นกันเองสุดๆ เพื่อที่จะได้เข้าถึงนักเรียนทุกคนและให้นักเรียนกล้าที่จะพูด ประมาณว่าพูดๆไปเถอะ บางทีก็คือเวลาอาจารย์ให้ลองแต่งประโยคก็อาจจะมีแกล้งๆกันระหว่างนักเรียนกับครู (แบบแต่งแซวๆ แต่งเว่อๆ ขำๆ อะไรแบบนี้ 5555555) 

 

 

         ระบบการสอนของที่เซจงคืออาจารย์จะไม่ได้ fixed ว่าคอร์สนี้เราเรียนกับอาจารย์ท่านไหน แต่อาจารย์จะผลัดกันมาเรื่อยๆค่ะ แต่ก็จะมีอาจารย์เกาหลีมาสอนสลับๆกันไปค่ะ ที่เป็นอย่างนี้เพราะว่าอาจารย์แต่ละท่านก็จะมีวันที่เข้ามาสอน รวมถึงระดับที่ตัวเองสอนอยู่ค่ะ ตัวอย่างง่ายๆคือ อาจารย์เกาหลีที่พูดไทยได้ก็จะสอนคลาสต้นๆสลับกันอาจารย์ไทยเป็นส่วนมากค่ะ แต่บางวันที่ไม่มีคลาสระดับต้นก็จะมาสอนระดับที่สูงขึ้นไปด้วยค่ะ (เรานี่เรียนวนมาเกือบทุกคนแล้วค่ะ ขั้นต่ำต่อคลาสเจออาจารย์ไม่ต่ำกว่า 3 คนเลยค่ะ) อีกอย่างคือในหนึ่งครั้งที่เรียนจะมีอาจารย์เข้ามาสอน 2 คนค่ะ เช่นเรียน 3 ชั่วโมง พอพักครึ่งก็จะเปลี่ยนเป็นอาจารย์อีกท่านเข้ามาสอนต่อค่ะ แต่ไม่ต้องกังวลนะคะว่าสับอาจารย์มากขนาดนี้จะเรียนต่อเนื่องไหม ต่อเนื่องแน่นอนค่ะ จากที่สังเกตมากอาจารย์ทุกท่านจะมีการคุยกันก่อนมาสอนว่าตัวเองสอนไปถึงไหนแล้ว เพื่อที่อีกท่านจะได้มาต่ออย่างไม่ขาดค่ะ

ATMOSPHERE

        ใครที่อยากไปเรียนแต่ไม่มีเพื่อนไปเรียนด้วย ไม่ต้องกลัวเลยค่ะ เราก็ไปเรียนแบบไปคนเดียว ฉายเดี่ยวเลยในตอนแรก แต่ด้วยจำนวนคนในห้องที่ไม่ได้เยอะจนเกินไป กิจกรรมในห้องที่ทำและตัวแบบฝึกหัดในหนังสือเรียน คือเหมือนเป็นกิจกรรม ice breaking เลยค่ะ มีกิจกรรมในห้องเยอะมากที่ทำให้เราได้รู้จักเพื่อนร่วมห้อง ใช้เวลาแปปเดียวก็ไม่เหงาแล้วค่ะ แถมบวกอาจารย์เข้ามาอีก พอเริ่มคุ้นกับอาจารย์ เริ่มคลิ๊กกับคนในห้อง พูดเลยค่ะ สนุกมากๆ 5555555555555 ฉะนั้นไม่ต้องกลัวหรือกังวลว่าจะเหงาเลยค่ะ 

        

         

IN MY OPINION~

        สำหรับตัวเรา เราว่าที่เซจงให้พวก skill ทางด้านการฟังและด้านการพูดกับเราค่อนข้างเยอะเลยค่ะ เพราะได้พูดเยอะมากๆๆๆๆๆ (ยิ่งเรียนสูงขึ้นมา บางคลาสคือให้เล่าเรื่องหรือให้ discuss กันเลยค่ะ) และด้วยจำนวนเด็กในคลาสที่ไม่เยอะมากจนเกินไป บวกกับความกันเองของอาจารย์ โอกาสที่จะได้ฝึกพูดก็ค่อนข้างเยอะเลยค่ะ สำหรับใครที่อยากเน้นเรื่องพูดและกำลังหาที่เรียนอยู่ ก็อยากจะแนะนำค่ะ สำหรับเรื่องแกรมม่าก็คืออาจจะไม่ได้เร็วทันใจหลายๆคนที่จะติวไปสอบเข้ามหาลัยค่ะ (ที่เซจงมีคอร์สติว TOPIK แต่ไม่มี PAT นะคะ) 

          นี่ก็เป็นข้อมูลคร่าวๆสำหรับสถาบันสอนภาษาเกาหลีเซจงนะคะ ถ้าใครอยากจะได้รายละเอียดเกี่ยวกับคอร์สหรือการเดินทางไปเรียนก็สามารถไปดูได้ที่ Facebook ของทางเซจงได้เลยค่ะ (คลิ๊กตรงนี้เพื่อไปดูข้อมูลได้เลยค่ะ)

  

           หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนไม่มากก็น้อยนะคะ ขอบคุณคร้าบบบ 

         

bottom of page